

คนไทยทางภาคเหนือนิยมรับประทานข้าวเหนียวเป็นหลักทั้ง 3 มื้อ ส่วนกับข้าวก็จะเป็นพวกเนื้อสัตว์ (เนื้อวัว เนื้อควาย หมู ไก่ ปลา) อาหารทะเลมีน้อยมาก และยังมีความเชื่อว่าถ้ากินอาหารทะเลจะผิดผญาด คือ เป็นโรคผิดสำแดง หรือ แสลง ผักต่าง ๆ ถั่วต่าง ๆ ลักษณะการประกอบอาหารก็จะมีทั้งชนิดแห้งและน้ำ เช่น ลาบ ลู่ ไส้อั่ว ชิ้นหมู เอาะ แกงฮังเล แกงอ่อม แกง โฮะ แกงผักกาดจอ เป็นต้น
มีอาหารชนิดหนึ่งที่ชาวบ้านต้องมีไว้ประจำครัวเรือน เรียกว่า “ถั่วเน่า” คือ ถั่วเหลืองที่นำไปหมักแล้วนำมาทำเป็นแผ่นบาง ๆ แบน และทำเป็นแผ่นกลม ๆ พอนำไปตากแดดแห้งแล้วจะนำมาร้อยเป็นพวงด้วยตอกไม้ไผ่ นำไปเก็บไว้ในครัว ถั่วเน่าจะนำไปผสมลงในแกงหรืออาหารอย่างอื่นได้หลายอย่าง
ยังมีอาหารอีกชนิดหนึ่งที่ควรกล่าวไว้ คือ ลู่ ซึ่งเป็นประเภทอาหารคาวและยังดิบ ๆ อยู่
ลู่ คือลาบทางภาคเหนือแต่มีเลือดผสมด้วย ลู่ทำจากเนื้อหมู วัว ควาย นำมาสับให้ละเอียด ผสมด้วยเครื่องเทศ มีเครื่องในสัตว์หั่นเป็นชิ้น ๆ ผสมลงไปด้วยก็ได้ รสจะเปรี้ยว เค็ม เผ็ด รสร้อนแรง นิยมกินกับเหล้า และมีผักต่าง ๆ มาแกล้ม ทางภาคอีสานลักษณะคล้ายกัน เรียกว่า ลาบเลือด แต่มีลักษณะเหลว ไม่ข้นเหมือนลู่ทางภาคเหนือ (สนิท สมัครการ :20-77)
ในการจัดสำรับอาหาร นอกจากจะใช้ขันโตกเป็นภาชนะสำหรับจัดตั้งสำรับกับข้าวไว้รับประทานกันตามปกติในชีวิตประจำวันแล้ว ยังนิยมใช้รับแขกอีกด้วย และกลายมาเป็นประเพณีนิยมในการเลี้ยงขันโตกในปัจจุบัน ที่เรียกว่า ขันโตกดินเนอร์ ซึ่งอาจารย์ไกรศรีนิมมานเหมินท์ คหบดีที่ได้รับการยกย่องเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมของภาคเหนือ (ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว) เป็นผู้ริเริ่มการจัดขันโตกดินเนอร์ โดยรือฟื้นการจัดอาหารแบบขันโตก มาเลี้ยงรับรองแขกในตอนเย็น โดยเริ่มจัดเมื่อ พ.ศ. 2449 เพื่อเลี้ยงส่ง ฯพณฯ สัญญา ธรรมศักดิ์ หัวหน้าผู้พิพากษาภาค 5 ในสมัยนั้น ณ บ้านพักของอาจารย์ไกรศรี ที่ถนนฟ้าฮ่าม จังหวัดเชียงใหม่ นับแต่นั้นยเป็นต้นมา งานเลี้ยงขันโตกดินเนอร์ จึงกลายมาเป็นประเพณีนิยมแพร่หลายมาจนปัจจุบัน (เสาวภา ศักยพันธ์ และยุพยง วิจิตรศิลป์, 2538, 5)
อาหารที่เป็นสำรับสำหรับการจัดขันโตก ทิ่นิยมกัน เช่น ลาบ แกงอ่อม ไส้อั่ว แคบหมู แกงฮังเล น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง พร้อมผักจิ้ม อาหารหวาน เช่น ข้าวแต๋น ขนมจ็อก


แหล่งที่มา__http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.fm100cmu.com/blog/Lanna/uploads/192403409.jpg&imgrefurl=http://www.fm100cmu.com/blog/Lanna/content.php%3Fid%3D292&usg=__3qa13jNRBLshEBTpiKZil_ikDeM=&h=276&w=390&sz=29&hl=th&start=3&sig2=-n_d1HrFms8rl7l0BMBBEw&um=1&tbnid=RR2rh9XvNOwOmM:&tbnh=87&tbnw=123&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A0%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2584%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%2B%2B%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2581%26hl%3Dth%26sa%3DG%26um%3D1&ei=jkgnS52yI43i7AOG0cC0Bg


แหล่งที่มา__http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.fm100cmu.com/blog/Lanna/uploads/192403409.jpg&imgrefurl=http://www.fm100cmu.com/blog/Lanna/content.php%3Fid%3D292&usg=__3qa13jNRBLshEBTpiKZil_ikDeM=&h=276&w=390&sz=29&hl=th&start=3&sig2=-n_d1HrFms8rl7l0BMBBEw&um=1&tbnid=RR2rh9XvNOwOmM:&tbnh=87&tbnw=123&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A0%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2584%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%2B%2B%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2581%26hl%3Dth%26sa%3DG%26um%3D1&ei=jkgnS52yI43i7AOG0cC0Bg
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น